
Uncategorized
ชีวิตรัก ดาว ขำมิน
จากจุดเริ่มต้นจากการประกวดเป็นเงาเสียง หมู พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ จนกลายเป็นตลกสุดฮอตขวัญใจคนไทยที่กำลังมาแรงในตอนนี้

สำหรับ “ดาว ขำมิน” ที่มีท่าทางการพูดอาการมึนๆเป็นเอกลักษณ์ จนกระทั่งหลายคนสงสัยว่าการแกล้งมึน หรือ มึนจริง

แต่ว่าก็ทำให้กลายเป็นเสน่ห์ที่ใครหลายคนจดจำ ดาว ขำมิน ด้วยท่าทางมึนๆแบบนี้ เขาถึงได้ความรักดีๆที่เป็นรักแท้สู้ทนความลำบากมาด้วยกัน

พร้อมเล่าถึงครอบครัวทั้งบ้านมีเงินอยู่ 6 บาท จึงยอมทำทุกสิ่งเพื่อตนเองหลุดออกมาจากความอดอยาก แล้วก็ความรักด้วยเหตุว่ารักมากมาย

ถึงได้ไล่ให้แฟนไปเจอสิ่งที่ดีกว่าไม่อยากให้อยู่ทรมานความจนร่วมกัน แต่ว่าเหมือนเคราะห์ซ้ำชีวิตแสนลำบากแล้ว ตั้งใจทุ่มเทหาเงินหวังมีชีวิตที่ดีขึ้น แต่ว่ากับโดนหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ชีวิตของพวกเราทั้งหมดทั้งปวงจริงๆก็คือ อุตสาหะที่จะหลุดออกมาจากวงจรของความยากแค้นให้ได้ ? : ความแร้นแค้นเป็นสิ่งที่ทรมาทรกรรมสำหรับครอบครัวผมนะ

จากที่ผมเคยอยู่บ้านเช่าพวกเราก็โดนไล่ทั้งยังบ้านมีเงินเหลือแค่หกบาทนั่งทานข้าวกันอยู่แล้วบ้านมันทรุดลงแล้วเงินหกบาทตกลงไปผมก็พยายามคว้าแล้วแต่ก็จมลงไปกับน้ำ

มันกลายเป็นภาพที่ติดอยู่กับผมตลอดมาเลย ในตอนลำบากที่จำเป็นต้องต่อสู้ดิ้นรนทุกอย่างเพื่อจะทำให้เรามีเงินให้ได้ตอนนั้นมีความรักผ่านเข้ามาบ้างไหม ?

ดาว ขำมิน : เป็นความรักตลาดนัดครับ พอเรารู้ว่าเขาขายของอยู่ที่ตลาดนัดเราก็ไปเดินซื้อของทุกวัน ภรรยา : เราก็มองดูๆเขาเหมือนผู้ชายคนนี้ไม่ค่อยเต็ม

เหมือนเขาบ้าๆเราก็ลองคบดูว่าเขาอาจจะเป็นคนดีก็ได้ ถึงเขาจะเป็นบ้าๆเราก็ลองศึกษาดูอะไรอย่างนี้ค่ะ พอคบกันมาดูเขาก็เป็นคนดี

แต่ว่าครั้งหนึ่งเขาก็พูดว่าให้พวกเราไปหาคนอื่นที่ดีกว่า ? ปู : ใช่ค่ะ ในช่วงเวลานั้นไม่มีเงินเลยมีเงินอยู่กันแค่ 100 บเองเขาก็บอกว่า ปู ไปจากเขาได้ไหม

เลิกกับเขาได้ไหมเขาบอกให้เราไปหาคนใหม่ที่ดีกว่าเขา ดาว ขำมิน : อย่ามาลำบากกับเราเลย อย่ามาต้องอดมื้อกินมื้อดีกว่า ปู : เราก็พูดว่าเราไม่ไป

จะอยู่กับเขาจะทนอยู่กับเขาเพราะว่าเขาเป็นคนที่เราเลือกแล้ว ไม่มีกินก็อดด้วยกัน ดาว ขำมิน : พอเราได้ฟังเขาพูดคำนั้นเป็น เราได้แต่ว่ากอดเขารวมทั้งร้องไห้

ตอนนั้นสมองมีแต่ว่าหางานกำลังคุยกันอยู่มีคนเอาโทรศัพท์เอามาขาย ถามว่าขายได้เท่าไหร่ก็ตีราคาได้ 800 บาท พอขายเสร็จเขาก็หยิบโทรศัพท์นั่นมาเช็ดแล้ว

ก็เปลี่ยนกรอบใหม่แล้วสักพักหนึ่งก็มีคนมาซื้อโทรศัพท์เครื่องนั้นเขาก็พูดว่า 2,400 บ. ผมเอากีตาร์วางเลยแล้วเดินไปหาเขาแล้วถามว่าขอลุ้นได้ไหม

เขาก็พูดว่าได้เอามาสิ 35,000 บาท ผมก็เลยยอมไปกู้แล้วพอครบเดือนก็เลยถามมาว่าเงินที่ลงหุ้นไปยังไง เขาก็พูดว่าอันนั้นไม่ได้หุ้นนะ ยืม

ถ้าเช่นนั้นเอาโทรศัพท์ 30 เครื่องนี้ไปแทนแล้วกันเงินไม่มีให้ เราก็รู้สึกว่ายังดีที่ได้โทรศัพท์มาแต่ว่าปรากฏว่าพอเอามาคือเครื่องนี้ก็เปิดไม่ได้เครื่องนี้ก็ไม่ติด สรุป ใช้ได้แค่สองเครื่องโดนหลอกอีก
