‘โจ นินนาท สินไชย’ อดีตพระเอกดัง ที่ใครๆคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดีจากบทบาท ‘ขวัญ’ ในหนังเรื่อง ‘ขวัญ-เรียม’ เวอร์ชั่นปี 2544 และก็นอกจากงานแสดง

ยังเป็นผู้ประกาศข่าวช่อง 9 โดยปัจจุบันนี้ได้หันหลังให้กับวงการบันเทิง ทำธุรกิจเป็นของตัวเอง มั่นใจว่าแฟนๆยังคงคิดถึงผลงานการแสดงของเขาจนถึงทุกวันนี้

โดย ‘โจ นินนาท’ ได้พูดว่า “ในช่วงเวลานี้นอกจากผลผลิตแปรรูป และก็โฮมเสตย์ที่เล่ามา ซึ่งสามารถรันงานได้เองแล้ว ผมก็มีงานพิธีกรฟรีแลนซ์

ที่ส่วนมากจะเป็นงานราชการ รับจ้างมาทำ รวมทั้งมีทำรายการของตัวเอง ‘Nature Hunter’ ส่วนรายการ ‘The Gardener’ ทำกับทางอมรินทร์

จุดเปลี่ยนของชีวิต น่าจะเป็นช่วงที่ผมถ่ายภาพยนตร์เรื่อง ‘ขวัญ-เรียม’ เพราะว่าต้องใช้เวลาถ่ายทำนานมาก แล้วไปถ่ายต่างจังหวัดตลอด ทำให้เราเริ่มซึมซับ

ความเป็นธรรมชาติ เริ่มชอบธรรมชาติ จริงๆบางทีอาจจะชอบจากที่อเมริกาด้วย เพราะว่าตอนอยู่ที่อเมริกา เปิดประตูหน้าบ้านมาเป็นทุ่งข้าวโพด กวางวิ่งผ่านหน้า

ทุ่มหนึ่งนี่ปิดไฟเงียบหมด แล้วไม่มีรถเมล์ถ้าหากไม่ทันรถโรงเรียน ก็จะต้องเดิน จากตรงนั้น น่าจะมีส่วนให้ผมกลายเป็นคนรักธรรมชาติ จนกระทั่งผมไปเจอที่ดินแปลงหนึ่ง

ที่ราชบุรี เลยซื้อไว้เพื่อทำสวน และก็ประจวบกับมีคนมาจ้างทำรายการเกี่ยวกับสวน ชื่อ ‘The Gardener’ ผมก็เลยผันจากงานแสดง มารับงานพิธีกรมากขึ้น

เริ่มจากรายการ Dezign ก่อน คือติดใจ ถ่ายเสร็จเร็วดีจัง เพราะว่าปกติผมต้องไปคนแรกของกอง แล้วกลับคนสุดท้าย แถมไม่มีถ่ายข้ามคืน ก็เลยชอบงานพิธีกร

แล้วในตอนนั้นมียุคหนังแผ่นมา ผมก็ไปรับเล่นตรงนั้นเยอะมาก เพราะว่างานเสร็จเร็ว ไม่ยืดเยื้อ ก็อย่างที่เห็น มิได้มีอะไร

ไม่รู้ผมคิดถูกไหมนะ คือผมคิดสวนทาง จากแต่ก่อนเราคิดว่าเราต้องมีเยอะๆเป็นผู้ชายรวยแล้วจะดูดี แต่ว่าปัจจุบันนี้ หนึ่งลูกก็ไม่มี แล้วงานที่เราทำทุกวันนี้ก็มีความสุข

ไม่ว่าจะงานพิธีกร ขายของ หรือเป็นลูกจ้าง มีความสุขกับชีวิตทุกวัน ทำให้รู้สึกนิ่งพร้อมที่จะไป จากทรัพย์สินที่มีก็เลยเริ่มทยอยปล่อย รู้สึกว่าอนาคตก็จะอยู่กันสองคนตายาย

ลองคิดดูหนุ่มๆอย่างผมขนตะไคร่บ้าง มะนาวบ้าง ใส่รถยนต์มาแจกคน ตอนนั้นคนยังไม่ค่อยรู้จักพืชผักออร์แกนิค จนถึงมีคนชวนให้เอาของมาขายในห้างสรรพสินค้า

ในขณะนั้นผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง แค่มัดๆผักที่ปลูกมาขาย จนกระทั่งมาศึกษาเรื่องบรรจุภัณฑ์ ปัจจุบันผมมีผักสลัด สมุนไพรส่งให้ห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง ใช้แบรนด์ว่า Happy Veggie

ก็พัฒนามาเรื่อย จนกระทั่งทุกวันนี้มีที่ดินกว่า 30 ไร่ จริงๆแล้วผมอยู่แบบพอเพียง แต่ว่าพอเพียงไม่ได้หมายถึงหยุดก้าวหน้า ตอนนี้ผมปลูกผักสมุนไพรกว่า 40-50 ชนิด”