
Uncategorized
ปนัดดา โกมารทัต หวนกลับวงการ
เป็นนักแสดงคุณภาพที่อยู่คู่กับวงการมายาวนานถึง 40 ปี แต่ฝีการแสดงและผลงานของ “ปนัดดา โกมารทัต” ไม่เคยมีแผ่วรักษาระดับมาตรฐานไว้อย่างยอดเยี่ยม

ปัจจุบันได้มาเยือนรายการ เล่าย้อนให้ฟังถึงการก้าวเข้ามาในวงการบันเทิง ด้วยเหตุว่าเป็นคนพูดเยอะ เลยทำให้ได้มายืนอยู่ในจุดนี้ พร้อมยังเล่าถึงพระเอกในดวงใจ

ที่แสดงร่วมกันทีไรทำตัวเองเก็บอาการไม่อยู่ พร้อมกับอัปเดตชีวิตตอนนี้ที่ยังคงรับงานละคร และก็เป็นสุขที่สุดที่ได้มองเห็นลูกชายประสบความสำเร็จ

ได้มาเป็นนางเอกหนังเพราะความฟลุค จำเป็นต้องเล่าย้อนไป น่าจะ 40 ปีค่ะ น้องสาวไปเป็นนางงามขวัญใจช่างภาพ แล้วในช่วงเวลาที่เขามีงานจัดเลี้ยง

เราก็จะต้องไปเป็นเพื่อนน้อง เหมือนไปเป็นคนดูแลนางงาม ซึ่งเวลาที่เรากินอาหารกันอยู่ สงสัยเพราะเราจะขี้บ่นมั้งคะ พี่ที่ร่วมโต๊ะเขาก็พูดกับเราว่าหนูนี่กล้าหาญเนอะ คุยเก่ง

หนูไปเป็นดาราไหม แล้วเราก็ถามกลับไปเพราะที่เราไม่เคยทราบจริงๆดาราได้เงินไหมคะ เพราะแม่เป็นครอบครัวที่ร่ำรวย แม่จะเห็นแก่เงิน เขาก็บอกเราว่าได้สิ ได้ประมาณ 40,000

เราก็ตอบตกลงเลย ซึ่งตอนนั้นคงจะตอนละ 700 บาทต่อเรื่องค่ะ ถ้าเทียบ 40,000 ตอนนั้นที่เล่นหนังใหญ่นะคะ เดี๋ยวนี้คงจะโดยประมาณ 400,000 บาทค่ะ เมื่อสมัยก่อนค่าจ้างแพงนะคะ

หลังจากนั้นก็ได้รับการชักชวนไปเป็นนางเอกหนังเรื่อง หยาดพิรุณ เป็นหนังเรื่องแรกเลยค่ะ เล่นเป็นสากกะเบือเลย เพราะว่าตอนนั้นยังไม่มีการสอนแอคติ้งหรือเรียนการแสดง

เราก็ได้ดารารุ่นพี่สอนซึ่งกันและกัน แล้วคือเราก็กลัวเขาอยู่แล้ว แล้วเราก็แอบมองเขาเวลาที่เขาแสดง ซึ่งเราก็มามีความรู้สึกว่าเราก็กินข้าวหม้อเดียวกับเขาในตอนที่เราอยู่กองแล้วเพราะอะไรเขาเล่นได้

เพราะอะไรเราเล่นไม่ได้ ก็เลยบอกตัวเองว่า ปนัดดา ไม่ได้เป็นไม่มี เราก็สู้แล้วก็คิดว่าเพื่อเงิน เพื่อเงิน เพราะเรื่องแรกเป็นยากมาก เพราะเราจะต้องเล่นเป็นคนสองบุคลิก แต่เพราะได้คุณพ่อพันธุ์เทพ ผู้กำกับ รุ่นพี่พิศมัย วิไลศักดิ์ ส

รพงษ์ ชาตรี มาช่วยเราทำให้ผ่านมาได้ แล้วหลังจากนั้นนานไหมถึงได้มาเล่นจอแก้ว หลังจากนั้นไม่นาน แม่เล่นไม่กี่เรื่องสำหรับหนังใหญ่ เพราะในสมัยก่อนนางเอกหนังใหญ่ส่วนมากเขาจะไม่ลงมาเล่นละคร

เพราะเขาจัดว่าตก ค่าตัวมันก็ต่างกันแล้วค่ะ แม่มาเล่นด้วยเหตุบังเอิญ เพราะคุณแหม่ม ธิติมา เพื่อนสมัยก่อนที่ออกงานพบปะร่วมกัน แล้วคุณแหม่มเขามาเชิญแม่ที่วังห้วยขวางของแม่

จากละครเรื่อง บางระจัน เลยทำให้แม่จิ๋มไปพบกับพระเอกในดวงใจ ซึ่งบอกเลยว่าเล่นเกือบจะไม่ได้เลย เพราะไม่กล้าสบตากับผู้ชายคนนี้ นั่นก็คือ พี่หนิง นิรุตติ์

ใช่ค่ะ จำต้องบอกเลยว่าสายตาของพี่หนิง เวลาสายตาหนุ่มกับสาวเวลามองกัน เวลาเราไดร์ผม เขาก็แอบมองเรา เราก็เขิน แล้วคือในเรื่องเราก็จะต้องเล่นเป็นสามีภรรยากัน

จะต้องเล่นเลิฟซีนกันบ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบางระจัน หรือชื่นชีวานาวี จะต้องมีเลิฟซีน ต้องมีกอดกัน เพราะเวลาที่กอดพี่หนิง ก้นของเราก็จะเด้งออกแบบที่เราไม่รู้ตัว

จนผู้กำกับเรียกเราให้ไปดูที่มอนิเตอร์ว่าเวลาเรากอดเราคืออะไร เรามองเห็นแล้วก็มีความรู้สึกว่าท่าเราน่าเกลียดมาก ท่านก็สอนเทคนิคให้เราว่าเอาขาอีกข้างไปแนบขาพี่หนิงไว้

เป็นมุมกล้องมันบังได้ และหนึ่งความภาคภูมิใจของแม่จิ๋มเลยคือลูกชาย ทำร้านอาหารที่คิวนแน่นมากคือ บ้านไอซ์ ไอซ์เป็นลูกชายคนเดียว แล้วตอนที่เขา 6-7 ขวบ

แม่ก็คิดว่าจะเลี้ยงลูกชายอย่างไรไม่ให้ออกจากบ้าน ก็เลยปรึกษาสามีว่าคุณย่าทำอาหารเก่ง เรามาทำกับข้าวขายไหม พอลูกโตแล้วเวลาเขามีเพื่อน จะได้เอาเพื่อนมาแฮงก์เอาท์ที่บ้าน
ซึ่งพอเขาได้เห็น ได้สัมผัส เขาก็ชอบในการทำอาหาร