การเเสดงยังคงตราตรึงใจมาจนถึงทุกวันนี้ สำหรับนางเอกคนที่ใครๆก็รู้จัก ‘เกด ธิญาดา พรรณบัว’ อดีตนางเอกดังยุค 90 ผู้ที่รับบทบาทเป็น ‘แม่วันทอง’ เวอร์ชั่นแรกจาก ‘ขุนช้างขุนแผน’ ปี พ.ศ. 2542 ผลงานละครพื้นบ้าน

ของ ‘ต้อย-เศรษฐา ศิระฉาย’ ถ่ายทอดทางช่อง 3 ‘เกด ธิญาดา พรรณบัว’ ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าแม่ละครพื้นบ้าน ที่ฝากผลงานการแสดงไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นละครเรื่อง ‘คาวน้ำค้าง’ , ‘จอมใจเจ้าป่า’ , ‘สายน้ำ ลูกผู้ชาย’ ,

‘ขุนช้างขุนแผน’ ฯลฯ ซึ่งเเต่ละเรื่องที่ได้ร่วมเเสดง เจ้าตัวก็ถ่ายทอดตัวละครออกมาได้ดีมากๆเรียกว่าในยุคนั้น ‘เกด ธิญาดา’ โด่งดังมาก เป็นนางเอกในดวงใจคนอีกหลายๆคน

แต่ว่าเมื่ออยู่วงการไปได้สักพัก เจ้าตัวก็ได้ตัดสินใจหันหลังให้วงการบันเทิงอย่างเต็มตัว และก็ได้เเต่งงานกับเเฟนหนุ่มทายาทนักธุรกิจ ตระกูลดัง ‘จ๊ะ ธรรมรัตน์’ หลังจากที่คบหากันมายาวนานกว่า 11 ปี ในปี พ.ศ.2554

โดยทั้งสองคบกันมานานกว่า 20 ปีแล้ว แต่ว่าทั้งสองก็ยังไม่มีทายาท แต่ว่าบอกเลยว่าภายหลังที่สมรสแล้ว ชีวิตของ เกด ธิญาดา นั้นดี สมบูรณ์แบบดุจเจ้าหญิง

ถึงเเม้ว่าปัจจุบันนี้สาวเกดจะมีอายุเข้าเลข 4 เเล้ว เเต่เจ้าตัวก็ยังคงความสวยอยู่ไม่เปลี่ยน ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างที่ผอมเพรียว การเเต่งตัว เสื้อผ้าหน้าผม ‘สาวเกด’ นั้นก็สวยตั้งเเต่หัวจรดเท้า

และก่อนหน้าที่ผ่านมาเจ้าตัวยังได้ออกมาโพสต์ภาพผลงานละคร ที่หลายๆคนต่างคิดถึงเพราะว่า “มีใครคิดถึงวันทองเวอร์ชั่นนี้บ้างไหมคะ 2542 ผ่านไป 22 ปี ยังจำกันได้ไหมนะ ขุนช้างขุนแผน พิมพิลาไลย วันทอง”

ตั้งเเต่สมัยก่อนจนกระทั่งปัจจุบันนี้ก็จะต้องบอกเลยว่า ‘สาวเกด’ เป็นนักเเสดงสาวที่สวยไม่เปลี่ยนจริงๆยิ่งอายุเพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ เเต่ความสวยก็ไม่มีลดน้อยลงไปเลย เเถมเเฟนๆก็ยังคงจดจำนางเอก

ในดวงใจคนนี้ได้อีกด้วย ย้อนเวลากลับไปประมาณยี่สิบปีที่ผ่านมา เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้สาวสวยหน้าหวาน ‘เกด ธิญาดา’ นางเอกละครพื้นบ้าน ที่ฝากผลงานบวกหน้าสวยๆไว้ทางหน้าจอหลายเรื่อง

โดยเฉพาะเรื่องที่สร้างชื่อเสียงให้กับเธออย่างมากอย่างเรื่อง ‘ขุนช้างขุนแผน’ จากนั้นเธอค่อยๆเฟดออกจากวงการ ปัจจุบันนี้ทำธุรกิจเป็นที่ปรึกษาด้านความสวยความงาม งานรีวิวต่างๆรวมทั้งธุรกิจตัดเสื้อในแบรนด์ ‘ธิญาดาผ้าไทย’

“เริ่มรับงานน้อยลง ตั้งแต่ปี 2548-2549 แล้วค่ะ เพราะว่าไปเรียนปริญญาโท แล้วเกดเป็นคนประเภทที่ว่าไม่ได้เก่งโดยที่ไม่ได้ไปเรียน คือจะต้องเรียน จะต้องไป ขาดเรียนไม่ได้ กลับมาเรียนอีกรอบ

ต่อไม่ติดเลย ก็รู้สึกว่า เป็นช่วงๆในเวลาที่เราต้องการจะเรียนแล้วล่ะ ก็เลยเริ่มรับงานน้อยลง เรียนปริญญาโท นิเทศศาสตร์ การตลาด ก็ตั้งใจเรียนอย่างเดียว แต่ว่าช่วงนั้นก็ยังมีสัญญากับ ‘อาร์เอส’ อยู่

ค่อนข้างจะเยอะเลยล่ะ ก็ขอเขาไปเรียนซึ่งเขาก็ให้ พอเรียนจบก็คิดนะคะ อยากจะกลับเข้ามาถ้ามีโอกาส เพราะว่าเราก็หายไปนานแล้ว แต่ว่าเพราะว่าเปลี่ยนเบอร์ด้วย รวมทั้งสัญญากับ ‘อาร์เอส’ ก็หมด เขาคงจะไม่รู้

จะติดต่อเรายังไงด้วย พอมาต่อมาได้โอกาสจากพี่ๆที่เคยทำงานด้วยกันเขาถามว่าเรายังรับงานหรือเปล่า เราก็โอเค จริงๆเล่น ‘เป็นต่อ’ มาสักพักแล้ว ก็หลายตอนอยู่

โดยส่วนตัวเราชอบเล่นละครนะ เพราะว่าได้เปลี่ยนบทไปเรื่อยๆเราได้เป็นหลายคนสนุกดี ส่วนเรื่อง ‘ขุนช้าง ขุนแผน’ เป็นละครที่ถ่ายนานมาก 60 ตอน ถ่ายเป็นปีเลยเราก็จะมีซึมซับแล้วก็ผูกพันกับเรื่องนี้ค่ะ”