
Uncategorized
ภาพปัจจุบัน นก มนัสชนก
พูดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวเน็ตจำนวนมากกำลังให้ความสนใจ ทางเราเชื่อว่าเพื่อนๆหลายๆคนอาจคงรู้จักสาวสวยคนนี้ ในฐานะนางเอกหนังระดับตำนาน ผู้ได้รับฉายาว่าเป็น “หลินชิงเสียเมืองไทย” สำหรับ “นก มนัสชนก” หรือ ลูกนก วันนี้เราจะพาเพื่อนๆไปดูภาพปัจจุบันนี้ของเธอหลังหายไปจากวงการบันเทิงยาวนานกว่า 30 ปี

“นก มนัสชนก” หรือ ลูกนก เป็นลูกคนสุดท้องของพ่อใจ และก็แม่สันทนา มีพี่ 5 คนเกิดวันที่ 26 ม.ค.2503 ที่โรงพยาบาลจุฬาความที่คุณพ่อเป็นข้าราชการ ก่อนที่จะย้ายไปประจำต่างจังหวัด

เธอเลยต้องตามไปด้วยเริ่มการศึกษาชั้นอนุบาลที่โรงเรียนประจำจังหวัดอุบลราชธานี ต่อที่โรงเรียนเซนต์โยเซฟในเครือของที่กรุงเทพ จนกระทั่งจบป.7 ต่อจากนั้นพ่อย้ายกลับกรุงเทพ เลยมาต่อที่โรงเรียนเรวดีจนกระทั่งจบม.ศ.3 แล้วต่อกรุงเทพการบัญชี 3 ปีก็จบหลักสูตร

ซึ่งภายหลังที่ “นก มนัสชนก” จบการศึกษาก็ได้งานเลย เป็นประชาสัมพันธ์ของธนาคารเอเชีย ทำงานนางแบบเดินแฟชั่นแล้วก็ถ่ายโฆษณาควบคู่ไปด้วย จนกระทั่งเข้าตา ไมค์ โพธิ์นาน รวมทั้งชวนไปเล่นหนังเรื่องแรกที่เขากำลังจะสร้าง ซึ่งหนังเรื่องแรกของเธอคือ แรกรัก (2521) คู่กับไพโรจน์ สังวริบุตร

หนังอีกเรื่องคือ เพลิงตะวันอันตราย (2522) และก็รับเชิญใน พ่อจ๋า (2523) ภายหลังไปเล่นละครทีวี ภายหลัง “นก มนัสชนก” ไปแต่งงาน มีลูก 2 คน แล้วก็สนุกกับงานอิสระ

ตั้งแต่โด่งดังจากภาพยนตร์ แรกรัก ปี 2521 “นก มนัสชนก” เข้าทำงานประจำที่บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) กว่าสิบปี ถัดจากนั้นไปทำงานประจำที่ บริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

อีกหลายปีในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ควบคู่ไปกับการทำหน้าที่พิธีกร ท้าพิสูจน์ จนกระทั่งเปลี่ยนไปทำงานโรงแรม

แต่ว่าเนื่องจากว่ารักอิสระมากกว่าทำงานประจำ เธอเลยออกมาเป็นฟรีแลนซ์ โดยเธอยังเคยเปิดใจว่า ถ้าหากทำไปจนอายุมากขึ้นร่างกายคงจะแย่แน่ ตื่นเช้าไปนั่งทำงานคงไม่ใช่เราแล้ว ก็เลยทำเป็นที่ปรึกษาหลายแห่ง แล้วยังเป็นอนุกรรมสภากรุงเทพมหานครอยู่ฝ่ายปกครองด้วย

เมื่อถามว่า ชีวิตที่ได้ช่วยงานสังคมรวมทั้งงานการเมือง ชอบงานไหนมากกว่ากัน “นก มนัสชนก” ตอบว่า “การเมืองกับพี่ไม่ถูกกัน นักการเมืองยิ่งกว่านักแสดง พี่เป็นนักแสดงมาก่อนที่ให้ความสุข ความจริงใจ

คือบทบาทเขาจ้างมาทำ รู้สึกว่าไม่ชอบ พี่เป็นคนไม่ค่อยชอบทะเลาะกับใคร เพราะตัวเองเป็นใจอ่อนด้วย นี่เป็นบทบาทของอดีตนักแสดงที่เข้ามาช่วยงานสังคมแบบเต็มใจ”
