
Uncategorized
ยลดา รองหานาม อดีตนางสาวไทย
ปี พ.ศ. 2531 คนไทยได้ร่วมยินดีกับนางงามจักรวาลคนที่ 2 ของประเทศไทยคือ “ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์” ผู้คนต่างให้ความสนใจกับวงการนางงามมากขึ้น

ถัดมาในปี พ.ศ. 2532 มีสาวงามได้ครอบครองมงกุฎอันทรงคุณค่าจากเวทีนางสาวไทย แต่ว่าคนในประเทศแทบจะไม่รู้ความเคลื่อนไหวของเธอเลย

นับตั้งแต่เสร็จสิ้นภารกิจในการดำรงตำแหน่ง จนกระทั่งปัจจุบันนี้ นับเป็นเวลาเกือบ 30 ปีแล้ว ที่ชื่อของ “น้อง ยลดา รองหานาม” เริ่มเลือนหายจนเกือบจะจำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ

ปัจจุบันนี้ “น้อง ยลดา” ใช้ชีวิตคู่กับสามี “กฤษณะ คำพูดไกรลาศ” นักธุSกิจอสังหาริมทรัพย์ฝีมือเก่งกาจ

มีธุSกิจหมู่บ้านจัดสรรที่คนแถบจังหวัดนนทบุรีรู้จักกันดี เมื่อเจอเธออีกครั้งในบทบาทของคุณแม่ลูก 3

แต่ว่าพอได้พูดคุย ก็เลยทราบว่าเธอยังคงเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ทางคำพูดเสมอ พวกเราจึงชวนเธอมารำลึกเรื่องราวชีวิตเมื่อวันที่ได้รับตำแหน่ง นางสาวไทยประจำปี พ.ศ. 2532

ความกดดันที่มาพร้อมกับความปลื้มใจในวันได้รับตำแหน่งนางสาวไทย เกิดขึ้นเมื่อ “น้อง ยลดา” ตัดสินใจใช้ช่วงเวลาปิดเทอมหาประสบการณ์

เธอคือผู้หญิงที่ถนัดเรื่องกีฬามากกว่าความสวยความงาม ถ้าหากพูดอย่างเข้าใจง่ายๆเธอไม่ใช่ตัวเต็ง ที่สำคัญช่วงเวลาพิธีกรประกาศชื่อว่าเธอได้ตำแหน่ง

ยังไม่วายถูกมองว่ามั่นใจเกินไป เหมือนคนที่รู้มาแล้วว่าจะได้ครองมงกุฎ งานนี้เธอพร้อมจะให้ความกระจ่างถึงเหตุการณ์ เมื่อ 29 ปีที่แล้ว

“พ่อกับแม่เราไม่เคยเห็นข่าวลูกสาวเลย เนื่องจากในรุ่นเราที่ประกวดดาวเด่นเยอะมาก แล้วก็ที่สำคัญคุณแอน เพชรรัตน์ (รองอันดับ 1)

เราก็เชียร์เขาอยู่ เขาหน้าสวยมาก แต่ว่า ณ ตอนนั้นเราคิดว่าเราทำให้ดีที่สุด สู้เต็มที่ ได้ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร

เราชิลๆเลยกลายเป็นว่าเราไม่มีแรงกดดัน พอเข้ารอบ 10 คน ก็ตกใจที่มีชื่อเรา และก็ยังได้ขวัญใจช่างภาพด้วย

พอเหลือเรากับคุณแอน 2 คนสุดท้าย ในตอนนั้น มีคนสงสัยว่าทำไมเรามองมั่นใจมาก มีการพยักหน้า และก็เราก็จูงมือแอนเดิน บอกตรงๆเลยว่า ตอนนั้นคิดแค่ว่าการประกวดจะจบแล้ว

ไม่ได้อยู่บ้านมา 1 เดือน คิดถึงพ่อแม่มาก การแสดงออกเลยเหมือนคนมั่นใจ พอประกาศคนที่ได้ตำแหน่งเป็นชื่อเรา

เราก็สงสัยว่า เอ๊ะ ประกาศรองอันดับ 1 หรือเปล่า รวมทั้งในตอนนั้นบางคนอาจจะไม่เห็นเราย่อ หรือไหว้ เพราะว่าตอนซ้อมเราไม่ได้ดู (หัวเราะ) จะต้องขออภัยด้วย คือเราคิดว่าคนสวยๆเยอะจริงๆ”

เธอเล่าถึงวินาทีได้ครองมงกุฎอย่างเฮฮา ด้วยน้ำเสียงที่ฟังแล้วรู้สึกรื่นหู เหมาะสมกับอาชีพพิธีกร ที่เธอการันตีว่าเป็นอาชีพที่เธอถนัดที่สุด

แต่ว่านั่นคืออดีต เนื่องจากว่าตอนนี้ “น้อง ยลดา” หันหลังให้กับวงการบันเทิง เพื่อสานต่อธุรกิจครอบครัวสามีมูลค่ามหาศาล
