ถือเป็นอีกข่าวที่ได้รับความสนอกสนใจจากประชาชนจำนวนไม่น้อย เมื่อยกให้ไปอีกพระเอกหนุ่มที่หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี สำหรับดารานักแสดงหนุ่มคนนี้ ที่โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิง

มานานหลายปี แต่ว่าพักหลังมานี้หายหน้าหายตาไปเลย สำหรับพระเอก ‘บอส โตนนท์’ ที่ตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับทางช่อง 7 ขอเป็นนักแสดงอิสระ โดยให้เหตุผลว่าเปิดโอกาสให้ตัวเองลองสิ่งใหม่ๆ

อนาคตถ้าหากมีสังกัดทาบค่อยว่ากันอีกที โดยก่อนหน้าที่จะไม่ต่อสัญญา มักจะข่าวฉาวหลุดออกมาว่าชอบเบี้ยวกองถ่ายอยู่เป็นบ่อยๆบวกทั้งยังพักหลังมานี้ก็ไม่ค่อยมีผลงานให้เห็นเสียเท่าไหร่

งานนี้เลยถูกกระแสข่าวเม้าท์ฟันธงว่า นักปั้นคนเก่ง ‘เอ ศุภชัย’ จะเอือมจนขอปล่อยลอยแพ ไม่ป้อนงานให้เหมือนเด็กในสังกัดคนอื่นๆจนผู้จัดการมือทอง ‘เอ ศุภชัย’

จะต้องรีบออกมาปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง โตนนท์ยังเป็นเด็กในสังกัดตนอยู่ เพียงแต่มีพี่เลี้ยงคอยดูแลแทนแค่นั้น และก็มั่นใจน้องไม่ได้เป็นคนเกเรเหมือนที่ข่าวออกมาแน่นอน

โดยปัจจุบันนี้ นอกจากงานแสดงและก็งานอื่นๆในวงการบันเทิงแล้ว ‘บอส โตนนท์’ ก็ได้หันมาทำอาชีพเสริมหารายได้เลี้ยงดูคุณแม่อีกทางด้วยการทำน้ำพริกสูตรของตัวเองมาวางขายตามตลาดนัด

เรียกว่าเป็นพระเอกที่สู้ชีวิต และก็ขยันทำมากินมาก แต่ว่าใครจะรู้ว่ากว่าจะมาถึงวันนี้ได้ ‘บอส โตนนท์’ ต้องผ่านร้อนผ่านหนาวอะไรมาบ้าง โดยเจ้าตัวได้เปิดเผยถึงชีวิตแสนลำบากก่อนเข้าวงการบันเทิง

ว่า เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากที่พ่อที่ได้จากไปอย่างกะทันหัน ทำให้สถานการณ์ในครอบครัวพลิกผัน จากที่เคยอยู่สุขสบาย ร่ำรวย โดยที่คุณแม่ไม่ต้องทำงาน

อยู่เป็นแม่บ้านโดยมีคุณพ่อเป็นเสาหลัก จนกระทั่งเมื่อพ่อเสียชีวิต ก็เลยเกิดภาระหนี้ต่างๆโดยภาระหนี้ทั้งหมดก็มาตกที่หนุ่มโตนนท์เพียงคนเดียว

จนกระทั่งทำให้หนุ่มโตนนท์จะต้องดิ้นรนสู้ชีวิต รวมทั้งต้องอดทนและก็ดิ้นรนต่อสู้ โดยเฉพาะหนี้จากบ้านหลังใหม่ ที่ครอบครัวเพิ่งย้ายเข้าไปอยู่ได้เพียงแค่ 3 สัปดาห์

ก็จะต้องตัดสินใจขายทิ้ง เพราะรับภาระผ่อนต่อไม่ไหว ถัดมาต้องขายรถยนต์ถึง 3 คัน ด้านคุณแม่ก็ต้องมารับภาระหนักในการทำงานหลังขดหลังแข็ง เพื่อหารายได้เข้าบ้าน

รวมทั้งภายหลังที่เจ้าตัวนั้น ต้องมาเห็นภาพแม่ของตัวเองจะต้องทำงานหนัก ทำให้เขาเข้าใจถึงความลำบากของคำว่าหาเช้ากินค่ำก็ในตอนนั้น ต้องนั่งรอลูกค้า ถึงขนาดที่วันไหนไม่มีลูกค้า

คือไม่มีเงินกินข้าว แม่จะต้องสละบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่มีอยู่ห่อเดียวในบ้านในลูกกิน และไม่ได้เป็นอย่างนั้นเพียงแค่วันเดียว จากนั้นโตนนท์ก็เลยตัดสินใจออกหางานทำ ยอมรับจ้างตัดหญ้า

ค่าแรงวันละ 200 บาท ไปทำงานเป็นตัวการ์ตูนมาสคอต ตั้งแต่เช้าถึงบ่าย รับทำงานทุกๆอย่างที่ได้เงิน จากประสบการณ์ความลำบากในชีวิตที่เจ้าตัวและก็แม่ได้ฝ่าฟันผ่านกันมาได้

วันนี้ก็เลยทำให้โตนนท์ได้เติบโตขึ้นมาเป็นเสาหลักของบ้านที่แข็งแกร่ง รวมทั้งสามารถทำความฝันของคุณแม่ที่ต้องการจะเปิดร้านอาหารเหนือ วันนี้เขาทำให้คุณแม่ได้แล้ว