เมื่อวันที่ 13 เดือนมิถุนายน ที่ร้านส้มตำในเขตเทศบาลหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งห้องอาหารที่ต้องใช้พริกเป็นวัตถุดิบหลักในการตำส้มตำขาย ภายหลังจากที่ช่วงนี้พริกสดขยับราคาพุ่งสูงขึ้นตั้งแต่กก.ละ 230-250 บาท

โดยพบว่าขณะนี้แต่ละร้านค้าพากันปรับตัวในการขายตำส้ม ซึ่งมีอีกทั้งขอปรับขึ้นราคาขายขึ้นมาอีกครกละ 5 บาท ส่วนบางร้านที่ยังไม่ปรับขึ้นราคาก็ปรับตัวซื้อพริกสดในแต่ละวันลดลงเหลือเพียงวันละ 20 บาท โดยยังพบอีกว่าตอนนี้ ราคาไก่สดก็เริ่มขยับราคาขึ้นอีกด้วยเช่นเดียวกัน แต่ร้านส้มตำยังพยุงขายกันในราคาเดิม เพื่อลดการแบกภาระไปที่ลูกค้า และก็พยุงให้ยอดขายยังพอได้ในช่วงเศรษฐกิจ ตอนนี้

โดย นางชนิดา แก้วเกตุ อายุ 50 ปี เจ้าของร้านส้มตำเจ๊มด ที่ตั้งร้านค้าขายอยู่ในตลาดสดเขตเทศบาลหนองฉาง เล่าว่า ขณะนี้ราคาพริกสดปรับสูงขึ้นมากจริงๆที่ร้านค้าเลยปรับแก้ด้วยการซื้อใช้เพียงแค่พอใช้ตำขายวันต่อวัน เพียงแค่ทีละ 20 บาท เพราะที่ร้านใช้ทั้งพริกแห้งและก็พริกสดในการตำส้มตำ ที่สำคัญส้มตำไม่สามารถปรับลดพริกให้ลูกค้าได้ถ้าลูกค้าอยากได้เผ็ดก็ต้องใช้พริกในปริมาณที่ลูกค้าต้องการ ตอนนี้ที่ร้านค้าก็ยังขายราคาเดิมทุกอย่าง

โดยขณะนี้ราคาไก่ที่ซื้อมาทำไก่ย่างก็ปรับขึ้นราคาขึ้นมาเยอะมาก อย่างสะโพกไก่สับ จากที่เคยซื้อโลละ 58 บาท ตอนนี้กก.ละ 85 บาท ตับไก่จาก กก.ละ 78 บาท เป็นกิโลละ 85 บาท แต่ว่าก็ยังขายไก่ย่างราคาเท่าเดิม อย่างตับไก่เครื่องในไก่ย่าง ก็ยังขายที่ไม้ละ 5 บาท ส่วนอกไก่แล้วก็ปีกไก่ก็ยังขายไม้ละ 15 บาท เช่นกัน เพราะตอนนี้ก็ซื้อขายกันยากหากปรับราคาให้สูงขึ้นขายอีกก็คงจะขายลำบากกว่าเดิม รวมๆแล้วตอนนี้ราคาต้นทุนไก่ที่ซื้อก็เพิ่มขึ้นมาค่อนข้างมาก ราคารวมที่ซื้อมาขายในแต่ละวันจากเดิมเคยซื้อในราคา 1,100-1,200 ตอนนี้ต้องจ่าย 1,500-1,600 บาท ทำให้รู้เลยว่าทุกวันนี้ขายของได้กำไรน้อยลงแน่นอน

ส่วน สองสามีภรรยา ร้านส้มตำร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นร้านค้าตำส้มรถยนต์เร่นั้น ก็เล่าให้ฟังด้วยเช่นเดียวกันว่า ปัจจุบันนี้ของขยับขึ้นราคามาหลายแบบมาก ส่วนพริกนั้นที่ร้านค้าจะใช้เป็นพริกแห้งสิ่งเดียว ขณะนี้ซื้อพริกแห้งในราคากก.ละ 170 บาท จากเดิมกก.ละ 140 บาท แล้วก็ที่ขยับขึ้นตามมาในตอนนี้ก็จะเป็นถั่วดิน จากที่เคยซื้อกก.ละ 50 บาท เป็นกิโลละ 70 บาท เนื้อไก่ตอนนี้กก.ละ 90 บาท จากเดิมกก.ละ 60-65 บาท ทำให้เวลานี้ที่ร้านค้าจำต้องแบกรับทุนผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นเพราะยังขายราคาเท่าเดิม จะมีขอปรับขึ้นราคาเพียงแค่เมนูตำไทยจากครกละ 30 บาท เป็น 35 บาท ด้วยเหตุว่าตำไทยจำต้องใช้ถั่วลิสง และก็กุ้งแห้งมากมาย และก็ในขณะนี้ทั้งถั่วลิสงทั้งกุ้งแห้งก็ปรับขึ้นราคา เลยทำให้จะต้องขอปรับราคาเพิ่มขึ้นขายมาอีก 5 บาท ที่สำคัญขณะนี้ มะเขือเทศ ชูถุง 5 กิโล ก็ขยับขึ้นราคาแล้วเช่นเดียวกัน ถ้าในช่วงฤดูกาล ก็จะถุงละ 30 บาท ถูกสุดก็ 3 ถุง 100 บาท ขณะนี้ซื้อถุงละ 80-100 บาท แล้วอีกด้วย

ด้าน นางธัญชนก สุขสะอาด เจ้าของร้านส้มตำลำยอง ก็เล่าว่า ในตอนนี้วัตถุดิบที่ใช้ในการตำส้มตำนั้นทยอยขึ้นราคาเกือบทั้งหมด แต่ที่ปรับขึ้นมาสูงมากมายก็จะเป็นพริกสดและก็พริกแห้ง ซึ่งถือเป็นวัตถุดิบหลักสำคัญที่จำต้องใช้อย่างเลี่ยงไม่ได้ โดยช่วงนี้ราคาพริกแห้งราคากก.ละ 180 บาท จากเดิมเคยซื้อที่โลละ 160 บาท แล้วก็พริกสีแดงสดตอนนี้กก.ละ 220 บาท จากที่เคยซื้อโลละ 150 บาท รวมแล้วปรับขึ้นมาถึงโลละ 70 บาท ทำให้ตอนนี้ที่ร้านไม่เน้นลดจำนวนแต่ขอปรับขึ้นราคาขายขึ้นมาอีกครกละ 5 บาท อย่างตำส้มปูปลาแดกจากเดิมครกละ 30 บาท เป็น 35 บาท ทั้งตอนนี้ ราคาเนื้อไก่ก็ปรับขึ้นทุกวัน จากที่เคยซื้อถูกสุดกก.ละ 54 บาท ตอนนี้ต้องซื้อกันในราคา 90-100 บาท แต่ว่าก็ยังขายราคาเท่าเดิมเพราะต้องเอามาขายคู่กับส้มตำ

โดย นางธัญชนก ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ตอนนี้ เศรษฐกิจของค้าของขายขึ้นหมด แต่ว่าค่าแรงก็เท่าเดิม ผู้ที่เป็นลูกจ้างเขาบ่นกันทุกคนเลยว่าค่าแรงไม่ขึ้น แต่ค่าครองชีพเขาสูงขึ้นมาก ก็จะตายกันหมดทุกคน ก็อยากฝากถึงรัฐบาลด้วยว่าประชาชนจะตายแล้ว ทุกวันนี้จะกินเกลือกันแล้ว